ลางร้าย! สัญญาณเตือนอยุธยา ถึงครา “กรุงแตก”
เปิดอ่านแล้ว 7,284 ครั้ง
หลังจากรับตำแหน่ง “พระยาวชิรปราการ” เจ้าเมืองกำแพงเพชรได้ไม่นานก็เกิดเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้ “พระยาตาก” เริ่มรู้สึกได้ถึงหายนะครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาเยือนกรุงศรีอยุธยา และยากที่จะแก้ไขได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
แม้จะเคยตั้งมั่นว่าจะรบจนสุดใจเพื่อรักษากรุงศรีอยุธยาเอาไว้ให้จงได้ แต่ด้วยหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “พระยาวชิรปราการ” หรือ พระยาตาก ในระหว่างมุ่งทำศึกเพื่อบ้านเมืองทำให้ต้องกลับมาทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ว่ากันตั้งแต่เมื่อครั้งที่ทัพของอังวะยกทัพเข้ามาใกล้ระยะที่สามารถยิงปืนใหญ่โจมตีกรุงศรีฯ ได้ พระยาตาก จึงสั่งยิงปืนใหญ่เพื่อสกัดทัพอังวะโดยมิได้ขออนุญาต จึงถูกฟ้องต้องโทษภาคทัณฑ์
หรือจะเป็นเหตุการณ์ที่ พระยาตาก คัดค้าน พระยาเพชรบุรี มิให้ยกทัพเรือออกรบ เพราะเห็นว่าอาจเป็นกลอุบายของ เนเมียวสีหบดี แต่ พระยาเพชรบุรี ไม่ฟังจึงพ่ายแพ้จนตัวตาย ทำให้ พระตาก ถูกกล่าวหาว่าเป็นเหตุให้ พระยาเพชรบุรี ต้องตายเพราะไม่ยอมออกไปรบด้วย และยังมีเหตุการณ์เมื่อครั้งที่ พระยาตาก คุมทหารออกไปรบนอกเมืองจนสามารถยึดค่ายอังวะได้ แต่ขุนนางผู้ทำหน้าที่รักษาพระนครกลับไม่ส่งกำลังหนุนมาช่วย ทำให้ทัพของอังวะสามารถยึดค่ายกลับคืนไปได้
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น รวมถึงความละเลยต่อหน้าที่ต่อบ้านเมืองของบรรดาขุนนางและผู้มียศศักดิ์ทั้งหลาย ทำให้ พระยาตาก มองไม่เห็นหนทางที่จะรักษาพระนครเอาไว้ และนับเป็นลางร้ายที่บ่งบอกชัดเจนว่ากรุงศรีอยุธยาถึงคราวจะต้องเสียแก่อังวะในครั้งนี้เป็นแน่ กลางดึกของวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2310 พระยาตาก จึงตัดสินใจรวบรวมผู้คนประมาณ 500 คน ตีฝ่าวงล้อมออกจากค่ายมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก เพื่อหวังรวบรวมกำลังกลับมากู้กรุงศรีอยุธยาต่อไป
ติดตามวีรกรรมการกู้ชาติครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ชาติไทยได้ในละครหนึ่งด้าวฟ้าเดียว วันพุธที่ 6 มิถุนายนนี้ หลังข่าวในพระราชสำนัก ทางช่อง 33
ละครที่เกี่ยวข้อง : หนึ่งด้าวฟ้าเดียว