สืบสาแหรก “หลุยส์” สายเลือดแท้มิชชันนารีคนแรกของเชียงใหม่!
เปิดอ่านแล้ว 3,575 ครั้ง
มีตัวตนจริง! พลิกหน้าประวัติศาสตร์รู้จัก “หมอแมคกิลวารี” มิชชันนารีคนแรกแห่งเชียงใหม่ ต้นตระกูลของ “หลุยส์” หมอหนุ่มตาน้ำข้าวผู้เคียงข้างสาวน้อยเทียนคำ
เป็นหนุ่มอบอุ่นผู้อยู่เคียงข้างหญิงที่เขารู้สึกดีทั้งชาติอดีตและปัจจุบันจริงๆ สำหรับ “หลุยส์” หมอฝรั่งแห่งดินแดนล้านนาที่เข้ามามีส่วนพัวพันกับ “เทียนคำ” หรือ “กลินท์” ในชาติปัจจุบัน โดยในละครหนุ่มคนนี้เป็นถึงผู้สืบสายเลือดแท้ของ “หมอแดเนียล แมคกิลวารี” มิชชันนารีคนแรกแห่งเชียงใหม่ ซึ่งมีตัวตนจริงในหน้าประวัติศาสตร์! มีชีวิตอยู่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6

หมอแดเนียล แมคกิลวารี
เรื่องราวของเหล่ามิชชันนารีในสยามเริ่มต้นขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 มิชชันนารีหลายคณะเดินทางสู่สยามเพื่อให้ความรู้ด้านวิทยาการทางการแพทย์ควบคู่กับการเผยแผ่ศาสนา โดยมิชชันนารีที่ชาวสยามรู้จักกันดีคือ “หมอบรัดเลย์” ผู้มีผลงานด้านการปลูกฝีและบุกเบิกงานพิมพ์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 เขาได้พา “หมอแดเนียล แมคกิลวารี” ผู้เป็นลูกเขยติดตามมาทำงานที่กรุงสยามด้วย
สยามประเทศตอนนั้นแผ่อำนาจกว้างขวาง เชียงใหม่ก็เป็นหนึ่งในเมืองประเทศราช และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของหมอแมคกิลวารี เมื่อพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ผู้ครองเมืองเชียงใหม่ได้ขอคณะแพทย์ไปประจำการยังดินแดนล้านนา สยามจึงส่งหมอแมคกิลวารีไปประจำการที่นั่น แม้การเดินทางจะยากลำบากถึงขนาดต้องนั่งเรือทวนกระแสน้ำปิงขึ้นเหนือ ก่อนจะขี่ช้างต่อไป โดยใช้เวลาเดินทางเกือบ 3 เดือน แต่ในที่สุดเขาก็กลายเป็นมิชชันนารีคนแรกของเชียงใหม่ ผู้นำวิทยาการด้านต่างๆ มาสู่ดินแดนล้านนา

หมอแมคกิลวารีมีผลงานทั้งการสร้างโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยและโรงเรียนดาราวิทยาลัย สร้างโรงพยาบาลแมคคอร์มิคและโรงพยาบาลโรคเรื้อนแมคเคน ควบคู่ไปกับการเผยแผ่ศาสนา ซึ่งมีคนเชียงใหม่สนใจเข้าร่วมเป็นคริสเตียนมากขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งใครจะคิดว่า... จะเกิดความตึงเครียดระหว่างมิชชันนารีกับเจ้าหลวงเชียงใหม่ขึ้น!!
น้อยสุยะกับหนานชัยที่หันไปนับถือคริสต์ศาสนาถูกสั่งฆ่าเพราะไม่ยอมมาทำงานในวันอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นวันที่พระผู้เป็นเจ้าหยุดทำงาน ชาวคริสเตียนต่างพากันหลบหนีเพราะกลัวภัยจะมาถึงตัว หมอแมคกิลวารีจึงร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังราชสำนักสยาม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงส่งข้าหลวงขึ้นมาพร้อมกับผู้แทนมิชชันนารีสยามเพื่อจัดการเรื่องนี้ แต่ปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไข

พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ผู้ครองเมืองเชียงใหม่
กระทั่งความตึงเครียดคลี่คลายลงเมื่อพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์เสด็จมาทรงร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทว่าขากลับเชียงใหม่พระองค์ถึงแก่พิราลัยด้วยอาการเส้นพระโลหิตในพระสมองแตก บรรยากาศการนับถือศาสนาของประชาชนในเชียงใหม่จึงผ่อนคลายลง ด้านหมอแมคกิลวารีก็ยังทำงานในฐานะมิชชันนารีจนถึงอายุ 83 ปีก็ถึงแก่กรรม
ส่วนในละคร “เพลิงพรางเทียน” หนุ่มหล่อตาน้ำข้าว “หลุยส์” คือสายเลือดแท้ของ “หมอแมคกิลวารี” มิชชันนารีคนแรกแห่งเชียงใหม่ จะมีบทบาทอย่างไรต่อดินแดนที่เต็มไปด้วยตำนานนี้อีกบ้าง ติดตามได้ ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 33
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก:หน่วยงานจดหมายเหตุประวัติศาสตร์และวิจัย สภาคริสตจักรในประเทศไทย, www.dara.ac.th
ละครที่เกี่ยวข้อง : เพลิงพรางเทียน